๙ น้ำเงินเปื้อนบาป
สัตหีบ...ใกล้ ๒ ทุ่ม โตโยต้าเก๋งสีน้ำเงิน ขับเคลื่อนโดยอดีตโซเฟอร์รถถังปราดเข้าเทียบยังร้านอาหารริมทาง
ที่เลือกแล้วว่าเหมาะหาอาหารยังชีวิต พอพากันเข้าไปหย่อนก้นบนเก้าอี้สรรพ อาหารทะเลถูกนำเสิร์ฟ
" ใครจะกินเหล้าหรือเบียร์สั่งเอาตามสบายน้อง "
เชียร รถถัง หัวหน้าทีมชวนเชิญ ดาวดังไบเล่ย์ข้องจิตกับเรื่องราวที่เห็นจึงชะโงกไปถามรุ่นใหญ่ " พี่เชียรสั่งอาหาร
เขาไว้ล่วงหน้าหรือครับ "
" ไม่ใช่พี่ ของสปอนเซอร์เค้าจัดการให้หลังจากเราสำรวจที่ทำงานเสร็จ "
" หยั่งงั้น แสดงว่า " แผน " ที่วางไว้นี่ พี่เชียรไม่ได้รับมาจัดการเอง "
คำซักถามที่ยังประโยชน์ของ แดง ไบเล่ย์ จุดประกายทางปัญญากับความทรงจำที่เคยอ่านหนังสือประเภทนักปล้น
มือปืน หรือเรื่องฆาตกรรมตลอดไปถึงขบวนการมาเฟียในยุคมัธยมฯ ขึ้นมา แต่หมดโอกาสถาม เพราะคำตอบแก
" มันกะทันหันว่ะ ความจริงแล้วเสี่ยเลี้ยงเขาจ้างเสืออบ จากปราจีนฯ มาทำงานนี้ แต่พวกมันผิดนัด เสี่ยจึงโยนงานนี้ให้
พี่เห็นว่าพวกเรากำลังต้องการเงินก้อนใหญ่จึงรับปากไป เหอะน่า...งานนี้งานเดียว "
คำชี้แจงกับอ้อนตอนสรุปของตำรวจเก่า พาให้แดงหมดข้อกังหา จากนั้น เชียร รถถัง สั่งพนักงานหญิงนำเหล้าเสิร์ฟ
ชักชวนทุกคนดื่มกิน พลกับเริงอดีตสมุนเก๊า ม้าเก็ง ซึ่งทั้ง ๒ มีวัยสูงกว่าทุกคนตามศักดิ์ควรจะเป็นรุ่นพี่ แต่ฟอร์มทาง
สมองไม่มี เจ๋งแต่ " ใจ " ที่หลอมมาจากสลัมสวนมะลิเบ้าเดียวกับลูกพี่ ดังนั้น อันดับบนถนนนักบู๊จึงเทียมกับพวกเรา
และร่วมเที่ยวอย่างเกรงใจกันและกัน ขณะนี้ทั้ง ๒ ดาวดังร่วมซัดเหล้ากับหัวหมู่คล้ายไม่สนใจข้าว ส่วนเหยี่ยววังปารุสฯ
กลับเคลิ้มแค่จิบ ดุจลิ้นไม่เคยแผ้วเมรัย
ต่อมา งานเลี้ยงของนายเงินเลิกรา เรา ๖ ชีวิตกลับขึ้นเก๋งโตโยต้าสีน้ำเงินคันเดิม โดยโซเฟอร์เริง สวนมะลิ ตียาวจาก
ดินแดนหลวงพ่ออี๋สู่สนามยุทธ์ด้วยความเร็วปกติ ผมซึ่งนั่งเบาะหลังติดประตูด้านขวามือ ทอดตามองยานพาหนะวิ่ง
สวนและแซงเป็นบางคัน เพื่อให้ใจไม่ครุ่นคิดถึงงาน เพราะตัดใจแน่ว่า เป็นไงเป็นกัน ชีวิตตนเมื่อลิขิตตนไม่ได้
ดังคิด ก็ขอให้ฟ้าลิขิต
" อีก ๕ นาที ๓ ทุ่ม ตรวจปืนกันให้พร้อมนะ " หัวหน้าทีมสั่งการจากเบาะหน้า
ผมเย็นวาบ ยิ้มหยันให้ตัวเองพลางดึงคอบร้า . ๓๘ ม.ม. ( ยุคนั้นนิยมมาก ) ออกตรวจสมรรถนะเช่นเพื่อนๆ
ส่วนสำนึกเตือนให้มองค่าของอาวุธในมือเมื่อคิดจะยึดมันประจำตัวยังประโยชน์กับชีวิตตนว่า สืบไปแล้ว
ควรใส่ใจดูแลให้มากกว่านี้ ไม่ใช่คอยรอคำเตือนจากคนที่เขาใช้อาวุธเช่นเรา
ครับ-สิ่งนี้คือครู และหาใช่ครูเฉพาะกับผม ๔ เพื่อนล้วนมีก้อนเนื้อในกะโหลกให้ซึมซับเข้าไปกรองเมื่อหวังเดิน
บนวังวนนี้
๓ ทุ่ม ๑๐ นาที เริง สวนมะลิ หยุดพาหนะของเราห่างจากปากทางเข้านิวแลนด์ราว ๑๐๐ เมตร เพื่อทบทวนงาน
ก่อนสัมผัสมือลาจากไปประจำจุดของแต่ละคน
บัดนี้ ผมกับพล ตรอกทวาย ตำแหน่งคุ้มกัน ๒ เพื่อนเตร่อยู่ข้างๆ ศาลเจ้าฯ ที่ตั้งเด่นตรงปากทางเข้าฝั่งขวามือ
ทำทีคอยใช้บริการสองแถวเล็กที่วิ่งเข้าออกวิมานกลางคืนเกือบทุกๆ ๕ นาที ส่วนฝั่งตรงข้าม เก๊าตี๋กับแดงเตร่
อยู่บริเวณโคนสนเยื้องบาร์ขุนแผน อันเป็นบาร์โชว์ ถัดไปตรงโค้งเลี้ยวเข้าถนนเริงเมือง มีแผงบุหรี่นานายี่ห้อ
วางขาย พร้อมของขบเคี้ยวตั้งแต่หมากฝรั่งยันลูกอม ปรากฏเชียร รถถังหัวหน้าทีมสถิตอยู่ ทางเบื้องหลังผม เริง สวนมะลิ
จอดโตโยต้าเก๋งเปิดไฟท้ายแดงโร่
ทุกตำแหน่งพร้อม รอการมาของ " เหยื่อ " เพื่อลั่นกระสุนเท่านั้น
ผมยืนทบทวนคำบอกระหว่างวางแผนของหมู่เชียรอีกครั้ง
" เวลา ๓ ทุ่มครึ่ง หรือเกินกว่านั้นเล็กน้อยจะมีรถเก๋งเบนซ์สีขาว วิ่งมาจากบ้านฉาง แบนซืคนนี้แหละเป้าของเรา
ในรถที่เบาะหลังจะมีผู้ชายวัย ๕๐ ปีนั่งอยู่คนเดียว พอรถวิ่งมาถึงปากทางเข้านิวแลนด์ คนขับรถซึ่งเป็นคนของเรา
จะชะลอความเร็วรถระหว่างเลี้ยว และขับรถให้เคลื่อนช้าๆ จังหวะนี้แหละที่เก๊าตี๋กับแดงจู่โจมเข้ายิง ทางด้านพลกับเปี๊ยก
พอเสียงปืนระเบิดให้ชาร์จสวนทางเข้าคุ้มกันแดงกับเก๊าตี๋ขณะถอนจนกว่าจะขึ้นรถ พูดง่ายๆ ระยะทาง ๕๐ เมตร จากที่เกิด
เหตุไปถึงรถที่เริงอยู่ เปี๊ยกกับพลต้องเคลียร์ทั้งก่อนยิง และหลังจากยิงแล้ว หากมีการปะทะเริงต้องเดินเครื่องรถคอยจนกว่า
ทั้ง ๔ คนจะกลับขึ้นรถหมด สำหรับพี่ช่วยตัวเอง อย่าห่วง "
การรอคอยอันอึดอัดที่สุดในชีวิตหนุ่มผ่านไปอย่างเชื่องช้า ผมมองไปทางหน้าบาร์ขุนแผนพร้อมสังเกตไปรอบตัว
๒ เพื่อนผู้รับตำแหน่งสำคัญหาอาการพิรุธ ยังจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารต่างชาติ ( m.p.) ยืนรักษาการณ์
ถัดบาร์โชว์ไป ส่ง " ซิก " เชิงบอกให้พวกเราเตรียมตัวจึงเตร่ไปหาดาวดังตรอกทวาย
" มาแล้วหรือ " พลหลุดปากก่อนพร้อมขยับร่าง
ผมไม่ตอบคำถามที่รู้อยู่แก่ใจ สู้สะกดใจเอาจริงกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า พลางก้าวเดินช้าๆ ทิ้งจังหวะเวลา
ลงมือ ทันใดเก๋งคันหนึ่งทะยานลิ่วมาจากบ้านฉาง พุ่งไฟหน้า ๒ ดวงสว่างจ้า ขณะนี้กำลังลดความเร็วให้สัญญาณไฟเลี้ยว
สีเหลืองวูบวับ
" ใช่แล้ว " พลบอกเสียงเข้ม
ผมซุกมือเข้าไปยังซอกเอวซ้ายเดินไปลักษณะกอดอกระวังเหตุแทรกซ้อนให้เพื่อนตามหน้าที่ กระทั่งเห็นตราเบนซ์
หน้ารถชัดเจน อึดใจ เบนซ์สีขาวคันงามหักเลี้ยวซ้ายเข้านิวแลนด์และหมุนวงล้อเคลื่อนไปอย่างช้าๆ ภายในรถ
ขณะมองผ่านกระจกเข้าไปมีคน ๒ คน โซเฟอร์คนหนึ่งกับที่นั่งยังเบาะหลังอีกหนึ่ง
วิบตา...ผมรู้สึกเย็นวาบยันมือที่กุมด้ามปืนอยู่ ดาวดังไบเล่ย์วิ่งอ้อมหลังรถไปยังฝั่งขวาของรถ เก๊าตี๋ซึ่งปักหลัก
อยู่ริมถนนซุกมือขวาเข้าไปในชายเสื้อ แดงวิ่งเหยาะๆ ตามรถจนได้จังหวะยิง ก็ปล่อยนิตยสารที่ใช้คลุมปืนหล่น
ลงถนน พร้อมเหนี่ยวไกปืนกระหน่ำยิงทะลุกระจกข้างด้านหลังทันควัน
เสียงปืนแผดระรัวหลายนัดระคนเสียงกระจกแตกกราวเร้าไปทั้งหู ผมไม่ยอมพ่ายใจตนในเวลาที่ต้องใข้ความกล้า
จึงกระชากปืนออกคุ้มกัน ๒ มือสังหารที่สับตีนลิ่วมาหา
พอเพื่อนคล้อยหลังไป ไม่มีพลเมืองดี ตำรวจหรือ m.p. ติดตามมา พล บอกเสียงกร้าว
" ถอยเถอะเพื่อน "
ได้กัน..ใครจะอยู่ เราสองปั่นวงล้อตีนไปยังโตโยต้าเก๋งที่เปิดประตูหลัง ๒ บานรอในบัดดล
ที่สุด สิ่งที่เราต้องการสมประสงค์ เงินจากน้ำมือเปื้อนบาปของเราถูกปั้นให้เป็นคาเฟ่ค้ากามภายในเวลา ๑ เดือนเศษ
ทว่า ในรอบ ๓๐ วัน กลางอาณาจักรบันเทิงที่หมู่เชียรกับเก๊าตี๋เป็นตัวหลักดำเนินงานที่กำลังได้รับความนิยมจากนักรบ
ขาว-ดำอยู่นั้น ทั้ง ๒ คนก็ได้ก่อศัตรูไว้ไม่น้อย สำหรับเก๊าตี๋ขณะออกโลดแล่นกับรุ่นใหญ่ เขาเปลี่ยนชื่อเป็น " โอตี๋ "
ศัตรูจึงรู้จักเขาเฉพาะนามดังกล่าว
เมื่อเป็นเช่นนี้ ในฐานะหุ้นส่วนเราจึงมีการปรึกษากันที่บ้านพักหลังเดิมของหมู่เชียรยังห้องรับแขกบ่ายวันนี้ มีเจ้าบ้าน
หรือหัวหน้าทีมเป็นประธาน
ตอนหนึ่ง เก๊าตี๋แจงถึงเหตุที่มีศัตรูมากด้วยสีหน้าแดงก่ำ นัยน์ตาโตผิดสัญชาติวาวเรืองดุจนัยน์ตาเสือ
" เอาล่ะ เราจะพูดคร่าวๆ ถึงเรื่องที่มีศัตรูมากคือ ที่นิวแลนด์นั้นมันมีคาเฟ่ขายตัวเฉพาะของเราที่เดียวหนึ่งล่ะ อีกทางหนึ่ง
คือพวกนั้นต้องการล้มเราเพื่อเปิดคาเฟ่ แบบของเรา แต่ดีว่าผู้ใหญ่ท่าน อนุญาตเฉพาะพี่เชียรเท่านั้น ไม่เช่นนั้น ป่านนี้
เรามีคู่แข่งอื้อ และอาจมีศัตรูมากกว่านี้ก็เป็นได้
" ไม่ใช่เพราะนายใช้คนไปดึงแขกของพวกนั้นหรือ...เราบอกกันตรงๆ เพื่อน " แดงกล่าวสุ้มเสียงปกติ
" นั่นพวกแขกมันเอาไปพูดกันเอง แล้วก็ชวนกันมา ส่วน " ค่าน้ำ " เราจ่ายตามธรรมเนียม เขาหาแขกและเอาเงินมาให้เรานี่ "
เหตุผลของกุมารจีนมีความหมาย การสนทนาจึงเปลี่ยนเป็นถ้อยทีถ้อยอาศัย โดยพวกเราขอร้องให้วุ่นใหญ่กับเก๊าตี๋
ลดบทบาทลง แล้วให้เริงกับพลดำเนินงานแทน ส่วนที่เหลือเป็นกองหลัง ปัญหานี้ผ่านด้วยดี
พอผ่านมาถึงเรื่องการ " เพิ่มทุน " เพื่อขยายกิจการให้พอกับค่าใช้จ่าย หลายคนมีปัญหาทันที เฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่
ไม่ค่อยมีปัญหา อย่างพลกับเริง ๒ ดาราแม้นศรีกลับมีปัญหา อ้างว่ากิจการยังไม่ทันคืนกำไรให้เห็น แล้วจะเอาเงิน
ที่ไหนมาเพิ่มทุน ลำพัง " เด็ก " ที่นำมาเข้า " คอก " นี่ ทั้งพลและเริงต้องขึ้นล่อง ระยอง-กรุงเทพฯ เข้ามหาชัยออกนครปฐม
จรดบ้านโป่ง ใช้ " เครดิต " นำเด็กมาป้อน ยังส่งเงินพรรคพวกไม่ครบ จึงขอให้งดโครงการนั่นไว้ชั่วคราวก่อน อย่างน้อย
ขอเวลาดูทิศทางชาวยุทธ์ถิ่นนี้สัก ๒ เดือน
ทางด้านกุมารจีนม้าเก็งเอ๋า เก๊าตี๋เสนอคำสนับสนุนหัวหมู่รถถังทำนองว่า ตนเองไม่ใช่อยากเพิ่มทุนด้วยรู้ฐานะการเงิน
ของพรรคเราดี แต่ถูกบังคับโดยอ้อมจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ขอเพิ่มค่า " เก๊าเจียะ " ขึ้นอีก ๕๐ % หากไม่หาทุนขยายกิจการ
เป็นจนแน่
มิหนำซ้ำ เหยี่ยววังปารุสก์ยังเสริม ถ้าเราไม่ยอมขยับขยายหรือเพิ่มเงินตามขอ เราอาจเจอ " คู่แข่ง " ซึ่งใครจะไปรู้
เพราะกฏหมายอยู่ในมือพวกเขา
ถึงตรงนี้ บรรยากาศภายในห้องรับแขกสิ้นเสียงพาที หุ่นสูงเพรียวสมสัดส่วนของดาวดังไบเล่ย์ขยับลุกขึ้นจากเก้าอี้
ยืนร่างตรงแน่ว โฉมหน้าที่มิได้ส่อแววทมิฬดั่งพฤติกรรมแลเคร่งขรึมเกินวัย นัยน์ตาเหลืองคมกริบกวาดมองทุกคน
ถามเสียงกังวาน
" เราจะเอาเงินทางไหนมาเพิ่มทุน เสี่ยเลี้ยงนั่นน่ะ ผมคิดว่าเขาไม่มายุ่งกับเราอีกแล้ว "
ไม่ยากหรอก พี่มีทาง " เชียร รถถัง เปิดไต๋ผลัวะ
" ทางไหนครับ "
" ผู้ใหญ่เต็ก จากชุมพร จะลงหุ้นกับเรา "
สิ้นคำแก แดงทิ้งก้นลงนั่งบนเก้าอี้ดังเดิม พรูลมหายใจยาว ผมเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างกว่าเพื่อน ด้วยเวลาเดือนเศษ
ที่หากินกลางอาณาจักรนิวแลนด์ พวกเรารู้จักชาวยุทธ์เมืองใต้นั่นพอสมควร บทบาทที่คนดังชุมพรโลดแล่นอยู่ขณะ
นี้คือ นักธุรกิจบันเทิง เป็นเจ้าของ สโนว์ไวท์ อะโกโก้ขนาดใหญ่ และกำลัง " หมายตา " ฮุบกิจการไนต์คลับคู่แข่ง
มาทำเสียเองอยู่ ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นหัวหอกเตรียมจัดตั้งคิวรถสองแถวเล็กถาวรขึ้นบริเวณหน้าสนามบินอู่ตะเภาอีกด้วย
เรียกว่าศัตรูเพียบทุกกิจการที่แกมีบทบาท
แดงมีความเห็นยังไงก็ว่ามา " รุ่นใหญ่เร้า
เขาหลุดคำทันควัน " เราหนีร้อนมานะครับ ผู้ใหญ่เต็กแกมีศัตรูมากเหมือนกัน ถ้าลงหุ้นกันแล้วจะมีปัญหา "
" งานทุกอย่างต้องทำก่อนนะเพื่อนไม่ลองไม่รู้ " กุมารจีนเสริม
" นี่...แดง " หมู่เชียรตามติดพัน " ผู้ใหญ่เต็กเขาไม่มายุ่งกับเรื่องนี้หรอก กิจการอื่นสำคัญกว่าเขามีเป็นล้าน "
" แล้วคนของแกล่ะ " ผมติงบ้าง
เก๊าตี๋ตอบผาง " ไม่เกี่ยว ถ้าจะเที่ยวต้องเสียเงินตามราคา "
" นายรับผิดชอบเรื่องนี้นะ " แดงย้ำแทน
" โอเค เพื่อน "
สิ้นเสียงกุมารจีนรับปาก แดงผินหน้าไปทางพลกับเริง และผม ถามหนักแน่น
" ลองดูกันไหม "
๒ ดาราดังย่านแม้นศรี ผงกหัวแทนตอบ สำหรับผมเข้าอีหรอบเดิม คือแห่ตามพวกเหมือนเดิม
หมดเรื่องเครียดเอาบ่ายจัด แดดรอนแสง หมู่เชียรจัดตั้งวงสุรา ( เบ็ดตกกวี หรือ ไม้กวาดทุกข์ ) อันเป็นของชื่นชอบ
พร้อมพลกับเริงคู่ขาเก่า เก๊าตี๋แยกไปหลังบ้านใต้ร่มเงามะม่วงจัดทำกิจเขียนภาพมังกรสะดุ้งเล่นสีลงในสมุดวาดเขียน
ขนาดใหญ่ที่ใกล้แล้วเสร็จอย่างประณีต แดงเข้าห้องเปิดวิทยุฟังเพลงชุดของเอลวิส ภาคบ่าย
ส่วนผมลุกไปนั่งมองปลากัดในขวดกับในโหลที่คัดมาจากเมืองชล ๒๐ กว่าตัว ชมสีสันของมันครู่เดียว จึงช้อนเอาตัว
ที่ยังไม่เคยประลองคมปากขึ้นมา ๒ ตัวไปใส่โหลขนาดใหญ่ พอน้ำในโหลหยุดกระเพื่อม ๒ นักสู้ขยายครีบ แพนหาง
พุ่งเข้าราวีกันพัลวัน ตัวสีน้ำเงินเคลือบแดงตอนนี้แพนหางขาดแล้ว ขณะนี้ " มัน " ประกบปากบิดกันจนลำตัวพลิกไปมา
น้ำป่วน
แต่ผมเริงใจ นั่งชมผู้ชนะที่ต้องมีหรืออาจไม่มีตามสัญชาติ " ลูกหม้อ " สืบไป
Tuesday, April 30, 2013
๙ น้ำเงินเปื้อนบาป
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment